สำหรับเรื่องข้อมูลของภาษา C จะกล่าวถึงเรื่องตัวอักขระ ค่าคงที่ และตัวแปร ดังรายละเอียดต่อไปนี้
2.5.1 ตัวอักขระ (charactors)
ตัวอักขระในภาษา C สามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภท คือ
1) ตัวเลข (digits) คือ ตัวเลข 0, 1, 2, …., 9 และตัวเลขฐานสิบหก A, B, C, D, E และ F
2) ตัวอักษร (letters) สามารถใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (uppercase letter) คือ A, B, C, …, Z และตัวอักษรพิมพ์เล็ก (lowercase letter) คือ a, b, c, …., z รวมทั้งสิ้น 52 ตัวอักษร
3) ตัวอักขระพิเศษ (special character) ซึ่งได้แก่
! * + “ <
# ( = | >
% ) ~ ; /
^ - [ : ,(comma)
? & _ ] ‘
.(dot) b (blank หรือ space)
ที่มา : สมชาย รัตนเลิศนุสรณ์, 2545 : 47.
ยกเว้นเครื่องหมาย _ (underscore) เพียงตัวเดียวที่ภาษา C จัดเป็นตัวอักษรตัวหนึ่ง โดยที่ตัวอักขระชนิดต่าง ๆ นี้จะถูกนำไปใช้เป็นค่าคงที่ ตัวแปร ตัวดำเนินการ หรือนิพจน์ ที่ใช้ในภาษา C ต่อไป
2.5.2 ค่าคงที่ (constants)
ค่าคงที่ คือตัวอักขระที่นำมาประกอบกันตั้งแต่ 1 ตัวอักขระขึ้นไป เพื่อบอกลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งของข้อมูล บางครั้งเราอาจเรียกค่าคงที่ว่า “ข้อมูล” (data) ก็ได้
ค่าคงที่พื้นฐานที่สำคัญในภาษา C มีดังนี้
1) ค่าคงที่ชนิดตัวเลขจำนวนเต็ม (integer constant)
ค่าคงที่ชนิดนี้จะเป็นตัวเลขจำนวนเต็มซึ่งอาจมีเครื่องหมายบวกหรือลบก็ได้ เช่น 0, 9, 85, -698, 1832, -2080 เป็นต้น โดยตัวเลขจำนวนเต็มที่จะสามารถเก็บได้ปรกติจะอยู่ในช่วง -32768 ถึง 32767 เท่านั้น บางครั้งเรานิยมเรียกค่าคงที่ชนิดนี้ว่าค่าคงที่ int (integer)
สำหรับการเก็บค่าคงที่ชนิด int นี้ภายในหน่วยความจำ จะใช้เนื้อที่ 2 bytes นอกจากนี้ยังสามารถเขียนค่าคงที่ชนิดนี้ให้อยู่ในรูปแบบตัวเลขฐานแปดและฐาน สิบหกได้ โดยใช้ตัวเลขศูนย์ (0) นำหน้าแล้วตามด้วยเลขฐานแปดที่ต้องการหรือจะใช้ตัวเลขศูนย์เอ็กซ์ (0x หรือ 0X) นำหน้าแล้วตามด้วยเลขฐานสิบหกที่ต้องการ เช่น 046, 027, 0xBD, 0X1BCF เป็นต้น
2) ค่าคงที่ชนิดตัวเลขทศนิยม (floating point constant)
ค่าคงที่ชนิดนี้จะเป็นตัวเลขจำนวนทศนิยม ซึ่งอาจจะมีเครื่องหมายบวก หรือลบก็ได้ หรือเป็นตัวเลขที่สามารถเขียนอยู่ในรูป E ยกกำลังได้ เช่น 3.0, 0.234, -0.54, 4E-06, 1.675E+10 เป็นต้น โดยตัวเลขทศนิยมนี้จะสามารถเก็บได้ปรกติจะอยู่ในช่วง 1.2E-38 ถึง 3.4E+38 เท่านั้น
สำหรับการเก็บค่าคงที่ชนิด float นี้จะใช้เนื้อที่ภายในหน่วยความจำ 4 bytes โดยที่ 3 bytes แรกจะเก็บค่าตัวเลขทศนิยม ส่วนอีก 1 bytes สุดท้ายจะเก็บค่ายกกำลังเอาไว้
3) ค่าคงที่ตัวเลขทศนิยมที่มีความละเอียดสองเท่า (double floating point)
ค่าคงที่ชนิดนี้นิยมเรียกว่า ค่าคงที่แบบ double ซึ่งจะสามารถเก็บตัวเลขทศนิยมที่มีค่าอยู่ในช่วง 2.2E-308 ถึง 1.8E+308 เท่านั้น
สำหรับการเก็บค่าคงที่ชนิด double นี้ จะใช้เนื้อที่ภายในหน่วยความจำ 8 bytes โดยใช้ 7 bytes แรกเก็บค่าตัวเลขทศนิยม ส่วนอีก 1 bytes สุดท้ายจะเก็บค่ายกกำลังเอาไว้ เช่นเดียวกับค่าคงที่ชนิด float
4) ค่าคงที่ชนิดตัวอักขระตัวเดียว (single character constant)
ค่าคงที่ชนิดนี้จะสามารถเก็บตัวอักขระได้เพียง 1 ตัวอักขระ โดยอยู่ภายในเครื่องหมาย ‘ ’ (single quotation) เช่น ‘5’, ‘X’, ‘c’ เป็นต้น
สำหรับการเก็บค่าคงที่ชนิด single character constant จะใช้เนื้อที่ภายในหน่วยความจำ 1 bytes
5) ค่าคงที่ชนิดข้อความ (strings constant)
ค่าคงที่ชนิดนี้จะเก็บตัวอักขระที่มีความยาวตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป โดยจะเก็บอยู่ในรูปของข้อมูลอะเรย์ (arrays) ซึ่งในแต่ละตัวอักขระจะใช้เนื้อที่ในการเก็บ 1 bytes เรียงติดต่อกันไปจนกระทั้งจบข้อความ และใน byte สุดท้ายจะเก็บ \0 (null character) เอาไว้เพื่อเป็นการบอกว่า จบข้อความแล้ว การเขียนค่าคงที่ชนิดข้อความจะต้องเขียนอยู่ภายในเครื่องหมาย “……” (double quotation) เช่น “X”, ”computer”, “4567”, “c” เป็นต้น
ตัวอย่างที่ 2.1 แสดงการเก็บข้อมูลชนิดข้อความ คำว่า “COMPUTER” ภายในหน่วยความจำ จะมีลักษณะดังนี้
รูปที่ 2.2 แสดงการเก็บข้อมูลชนิดข้อความคำว่า “COMPUTER” ภายในหน่วยความจำ
ที่มา : สมชาย รัตนเลิศนุสรณ์, 2545 : 49.
2.5.3 ตัวแปร (variables)ที่มา : สมชาย รัตนเลิศนุสรณ์, 2545 : 49.
ตัวแปร คือ ชื่อที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูล หรือใช้เก็บข้อมูล ดังนั้นเราต้องกำหนดตัวแปรให้สอดคล้องกับชนิดข้อมูลเสมอ เพื่อให้ระบบเตรียมเนื้อที่ในหน่วยความจำให้สอดคล้องกับตัวแปรชนิดนั้น ๆ ซึ่งเนื้อหาที่กล่าวถึงเกี่ยวกับตัวแปรประกอบด้วย หลักเกณฑ์การตั้งชื่อตัวแปร การประกาศตัวแปร และการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร
2.5.3.1 หลักเกณฑ์การตั้งชื่อตัวแปร
ในภาษา C มีหลักเกณฑ์การตั้งชื่อตัวแปรดังนี้
1) ชื่อตัวแปรจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเท่านั้น ตัวถัดมาเป็นได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข แต่ต้องไม่มีเครื่องหมายคำนวณ บวก (+), ลบ (-), คูณ (*), หาร (/), หารเอาเศษ (%) และเครื่องหมายเว้นวรรค (blank) คั่นระหว่างชื่อตัวแปร แต่ถ้าต้องการตั้งชื่อตัวแปรเว้นวรรคให้ใช้เครื่องหมาย _ (underscore) คั่นแทนการเว้นวรรค เช่น sum_1, sum_2 เป็นต้น
2) ความยาวของชื่อตัวแปร ขึ้นอยู่กับคอมไพเลอร์และระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งภาษา C สามารถตั้งชื่อตัวแปรได้ยาวถึง 32 ตัว แต่โดยปกติเราไม่นิยมตั้งชื่อตัวแปรยาว ๆ
3) ชื่อตัวแปรตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และตัวอักษรพิมพ์เล็ก แม้จะเขียนคำเดียวกัน หรือตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ปนตัวอักษรพิมพ์เล็กที่สลับตำแหน่งกัน ระบบถือว่าเป็นคนละตัวแปรกัน เช่น ตัวแปร MAX, max, Max, mAx, maX จะถือว่าตัวแปรทั้ง 5 ตัวนี้เป็นคนละตัวกัน
4) ห้ามตั้งชื่อตัวแปรซ้ำกับคำสงวน (reserved word) หรือชื่อฟังก์ชัน หรือชื่อคำสั่งในภาษานั้น ๆ
คำสงวนในภาษา C ตามมาตรฐาน ANSI (American National Standards Institute) มี 33 keywords ดังนี้
asm, auto double int struct
break else long switch
case enum register typedef
char extern return union
const float short unsigned
continue for signed void
default goto sizeof volatile
do if static while
5) ชื่อตัวแปรควรตั้งให้สัมพันธ์กับข้อมูลที่ต้องการเก็บ เพื่อป้องกันความสับสน เนื่องจากโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่จะมีตัวแปรจำนวนมาก ถ้าเราตั้งชื่อตัวแปรโดยไม่มีระบบระเบียบที่ดีพอจะทำให้ผู้อ่านโปรแกรมเกิด ความสับสนและในกรณีที่โปรแกรมเกิดข้อผิดพลาดขึ้นจะเสียเวลาในการแก้ไข โปรแกรมมากขึ้น เช่น
ตัวแปร name ใช้เก็บชื่อ
ตัวแปร age ใช้เก็บอายุ
ตัวแปร salary ใช้เก็บเงินเดือน
ตัวแปร vat ใช้เก็บภาษี
2.5.3.2 การประกาศตัวแปร (declaration of variables)
ตัวแปรทุกตัวต้องมีการประกาศชื่อตัวแปร (variable name) และชนิดของตัวแปร (variable type) เอาไว้ก่อน จึงจะสามารถนำตัวแปรที่ประกาศไว้มาใช้งานได้
รูปแบบการประกาศตัวแปร
vtype vname ;
|
โดยที่
vtype คือ ชนิของตัวแปรพื้นฐานที่นิยมใช้กันมีอยู่ 4 ชนิด คือ char, int, float, และ double ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การประกาศชนิดของตัวแปรจะต้องให้ความสัมพันธ์กับค่าข้อมูลที่ต้องการเก็บ ด้วย ดังแสดงในตารางที่ 2.1
vname คือ ชื่อของตัวแปร ถ้ามีตัวแปรหลายตัวที่ต้องการให้มีชนิดตัวแปรเหมือนกัน สามารถใช้เครื่องหมาย , (comma) คั่นระหว่างชื่อตัวแปรได้
ตัวอย่างที่ 2.2 แสดงการประกาศตัวแปร
1. char d, c[30];
จะได้ตัวแปร d มีชนิดเป็น single character และตัวแปรสตริง c มีขนาด 30 bytes
2. int a, b;
จะได้ตัวแปร a และ b มีชนิดเป็น int คือใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำ 2 bytes สามารถเก็บตัวเลขจำนวนเต็มที่มีค่าอยู่ในช่วง -32768 ถึง 32767
3. float k, m, n,
จะได้ตัวแปร k, m และ n มีชนิดเป็น float คือใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำ 4 bytes สามารถเก็บจำนวนทศนิยม และตัวเลขที่อยู่ในรูป E ยกกำลังได้
4 .double w, x, y, z
จะได้ตัวแปร w, x, y และ z มีชนิดเป็น double คือใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำ 8 bytes สามารถเก็บจำนวนทศนิยม หรือตัวเลขที่อยู่ในรูป E ยกกำลังที่มีความละเอียดสูงกว่าชนิด float
ตารางที่ 2.1 แสดงชนิดของตัวแปร จำนวน bytes และพิสัยของค่าข้อมูลในภาษา C
ชนิดของตัวแปร
(variable types) |
จำนวน bytes ที่ใช้
|
พิสัยในการเก็บข้อมูล
(range) |
char
|
1
|
-128 to 127
|
int
|
2
|
-32,768 to 32,767
|
short
|
2
|
-32,768 to 32,767
|
long
|
4
|
-2,147,483,648 to 2,147,483,647
|
unsigned char
|
1
|
0 to 255
|
unsigned int
|
2
|
0 to 65,535
|
unsigned short
|
2
|
0 to 65,535
|
unsigned long
|
4
|
0 to 4,294,967,295
|
enum
|
2
|
0 to 65,535
|
float
|
4
|
1.2E-38 to 3.4E+38
|
double
|
8
|
2.2E-308 to 1.8E+308
|
ที่มา : Aitken, P. and B. Jones, 1994 : 40.
กรณีที่ต้องการประกาศตัวแปรและกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรด้วยสามารถทำได้ดังนี้
รูปแบบการประกาศตัวแปรและกำหนดค่าให้กับตัวแปร
|
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรและกำหนดค่าให้กับตัวแปร 2.5.3.3 การกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร (initializing variables)
ตัวอย่างที่ 2.3 แสดงการประกาศตัวแปรและกำหนดค่าให้ตัวแปร
- char d=’D’,e=’E’;
- char c[6]=”Hello”;
- int a=9, b=25;
- float k=5.9;
- double y=3.543006089;
2.5.3.3 การกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร (initializing variables)
หลังจากที่เราได้ประกาศตัวแปรไว้ ถ้าเราต้องการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรใดเราสามารถทำได้ดังนี้
รูปแบบกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร
|
โดยที่
ตัวอย่างที่ 2.4 แสดงการประกาศค่าตัวแปรและกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปร
vname คือ ชื่อตัวแปรที่ได้ประกาศแล้ว
value คือ ค่าข้อมูลที่จะนำไปเก็บไว้ในตัวแปร ซึ่งอาจเป็นค่าตัวเลขหรือข้อความก็ได้ ถ้าเป็นข้อความจะต้องเขียนอยู่ในเครื่องหมาย “……”
int a, b, c=7; /* เป็นการประกาศตัวแปร a, b, และ c, เป็น int และกำหนด
ค่าตัวแปร c มีค่า 7 */
a=b=c; /* เป็นการกำหนดค่าตัวแปร a และ b ให้มีค่าเท่ากับตัวแปร c (คือมีค่าเท่ากับ 7) */
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น